วันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2557

SQL AVG

SQL AVG 
เป็นคำสั่งที่ใช้สำหรับการระบุเงื่อนไขการเลือกข้อมูลในตาราง (Table) โดยหาค่าเฉลี่ยผลรวมของฟิวด์

Database : MySQL,Microsoft Access,SQL Server,Oracle

Syntax

SELECT AVG(Column/Field) AS [New-Field] FROM [Table-Name]


Table : customer
CustomerID
Name
Email
CountryCode
Budget
Used
C001
Win Weerachaiwin.weerachai@thaicreate.com
TH
1000000600000
C002
John Smithjohn.smith@thaicreate.com
EN
2000000800000
C003
Jame Bornjame.born@thaicreate.com
US
3000000600000
C004
Chalee Angelchalee.angel@thaicreate.com
US
4000000100000


Sample1 การเลือกข้อมูลค่าเฉลี่ยผลรวมของ Budget

SELECT AVG(Budget) AS AvgBudget FROM customer

Output 

AvgBudget
2500000

SQL WHERE

SQL WHERE 
เป็นคำสั่งที่ใช้สำหรับการระบุเงื่อนไขการเลือกข้อมูลในตาราง (Table) คำสั่ง SQL WHERE สามารถระบุเงื่อนไขในการเลือกข้อมูลได้ 1 เงื่อนไข หรือมากกว่า 1 เงื่อนไข

Database : MySQL,Microsoft Access,SQL Server,Oracle

Syntax

SELECT Column1, Column2, Column3,... FROM Table-Name WHERE [Field] = 'Value'


Table : customer
CustomerID
Name
Email
CountryCode
Budget
Used
C001
Win Weerachaiwin.weerachai@thaicreate.com
TH
1000000600000
C002
John Smithjohn.smith@thaicreate.com
EN
2000000800000
C003
Jame Bornjame.born@thaicreate.com
US
3000000600000
C004
Chalee Angelchalee.angel@thaicreate.com
US
4000000100000


Sample1 การเลือกข้อมูลโดยใช้ Operators = (เท่ากับ) 

SELECT * FROM customer WHERE CountryCode = 'US'
หรือ แบบ 2 เงื่อนไข ใช้ and เข้ามาเชื่อม วลี
SELECT * FROM customer WHERE CountryCode = 'US' and Budget = '4000000'

Output 

CustomerID
Name
Email
CountryCode
Budget
Used
C003
Jame Bornjame.smith@thaicreate.com
US
3000000600000
C004
Chalee Angelchalee.angel@thaicreate.com
US
4000000100000

CustomerID
Name
Email
CountryCode
Budget
Used
C004
Chalee Angelchalee.angel@thaicreate.com
US
4000000100000


Sample2 การเลือกข้อมูลโดยใช้ Operators != (ไม่เท่ากับ) 

SELECT * FROM customer WHERE CountryCode != 'US'
หรือ แบบ 2 เงื่อนไข ใช้ and เข้ามาเชื่อม วลี
SELECT * FROM customer WHERE CountryCode != 'US' and CountryCode != 'EN'
หรือจะใช้ or
SELECT * FROM customer WHERE CountryCode != 'US' or Budget = '1000000'

Output 

CustomerID
Name
Email
CountryCode
Budget
Used
C001
Win Weerachaiwin.weerachai@thaicreate.com
TH
1000000600000
C002
John Smithjohn.smith@thaicreate.com
EN
2000000800000

CustomerID
Name
Email
CountryCode
Budget
Used
C001
Win Weerachaiwin.weerachai@thaicreate.com
TH
1000000600000

CustomerID
Name
Email
CountryCode
Budget
Used
C001
Win Weerachaiwin.weerachai@thaicreate.com
TH
1000000600000
C002
John Smithjohn.smith@thaicreate.com
EN
2000000800000

SQL SELECT

SQL SELECT
เป็นคำสั่งที่ใช้สำหรับการเรียกดูข้อมูลในตาราง (Table) คำสั่ง SQL SELECT สามารถเรียกได้ทั้งตาราง หรือว่า สามารถระบุฟิวด์ที่ต้องการเรียกดูข้อมูลได้ 

Database : MySQL,Microsoft Access,SQL Server,Oracle

Syntax

SELECT Column1, Column2, Column3,... FROM [Table-Name]


Table : customer
CustomerID
Name
Email
CountryCode
Budget
Used
C001
Win Weerachaiwin.weerachai@thaicreate.com
TH
1000000600000
C002
John Smithjohn.smith@thaicreate.com
EN
2000000800000
C003
Jame Bornjame.born@thaicreate.com
US
3000000600000
C004
Chalee Angelchalee.angel@thaicreate.com
US
4000000100000


Sample1 การเลือกข้อมูลที่ระบุฟิวด์

SELECT CustomerID, Name, Email FROM customer

Output 

CustomerID
Name
Email
C001
Win Weerachaiwin.weerachai@thaicreate.com
C002
John Smithjohn.smith@thaicreate.com
C003
Jame Bornjame.born@thaicreate.com
C004
Chalee Angelchalee.angel@thaicreate.com



Sample2 การเลือกข้อมูลทั้งหมดของ Table 

SELECT * FROM customer

Output 

CustomerID
Name
Email
CountryCode
Budget
Used
C001
Win Weerachaiwin.weerachai@thaicreate.com
TH
1000000600000
C002
John Smithjohn.smith@thaicreate.com
EN
2000000800000
C003
Jame Bornjame.smith@thaicreate.com
US
3000000600000
C004
Chalee Angelchalee.angel@thaicreate.com
US
4000000100000

SQL Database & Table

รู้จักกับภาษา SQL ? SQL หรือ Structured Query Language 
เป็นภาษาที่ใช้ในการติดต่อกับฐานข้อมูลหรือพูดอีกอย่างก็คือ เป็นภาษาที่ใช้ในการสั่งให้ฐานฐานข้อมูลกระทำการใด ๆ ตามคำสั่งที่เราสั่ง ซึ่งในการติดต่อฐานข้อมูลนั้น ไม่ว่าจะเป็น SQL Server , Microsoft Access , MySQL ,DB2 หรือแม้แต่ Oracle ก็จะต้องใช้คำสั่งภาษา SQL ในการควบคุมทั้งสิ้น และเราจะมาเรียนรู้ถึงคำสั่งพื้นฐาน ของ SQL ที่จำเป็นกัน

โดยส่วนใหญ่แล้วการใช้คำสั่ง SQL เพื่อติดต่อฐานข้อมูลนั้น จะใช้โดยหลักคือ 3 กรณี 

1. การเรียกดู
2. การแก้ไข ลบ, เพิ่ม, เปลี่ยนแปลง
3. การสร้างขึ้นใหม่ 



สำหรับตัวอย่างในบทเรียนนี้ ผมได้สร้าง Table ขึ้นมา 3 Table ครับ
1.customer เป็นตารางเก็บข้อมูลลูกค้า
2.audit เป็นตารางเก็บข้อมูลการใช้ยอดเงินลูกค้า
3.country เป็นตารางเก็บข้อมูลประเทศ


Table : Customer

CustomerID
Name
Email
CountryCode
Budget
Used
C001
Win Weerachaiwin.weerachai@thaicreate.com
TH
1000000600000
C002
John Smithjohn.smith@thaicreate.com
EN
2000000800000
C003
Jame Bornjame.born@thaicreate.com
US
3000000600000
C004
Chalee Angelchalee.angel@thaicreate.com
US
4000000100000


Table : audit

AuditID
CustomerID
Date
Used
1
C001
2008-07-01
100000
2
C001
2008-07-05
200000
3
C001
2008-07-10
300000
4
C002
2008-07-02
400000
5
C002
2008-07-07
100000
6
C002
2008-07-15
300000
7
C003
2008-07-20
400000
8
C003
2008-07-25
200000
9
C004
2008-07-04
100000


Table : country

CountryCode
CountryName
TH
Thailand
EN
English
US
United states

วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2557

The Revenge แค้นนี้ต้องชำระ [Official Teaser]


เรื่องย่อ

           ตั้งแต่เด็กจนโต ชุอาศัยอยู่กับแม่ และพ่อเลี้ยงของเธอ ครอบครัวของเธอมักมีปัญหากันจนเป็นความเคยชิน ทุกๆวัน พ่อเลี้ยงและแม่ของชุก็จะทะเลาะกันเหมือนปกติ จนเธอกลายเป็นเด็กมีปัญหา  วันหนึ่งพ่อและแม่ของชุมีปัญหารุนแรงขั้นพ่อใช้ปืนยิงแม่จนเสียชีวิต ชุเสียใจอย่างสุดขีด แต่ทำได้เพียงแอบมองอย่างห่างๆเพราะกลัวว่าพ่อจะฆ่าชุเช่นเดียวกับฆ่าแม่ ชุเห็นทุกการกระทำที่พ่อทำกับแม่ในวันนั้น พ่อลากศพแม่ไปทิ้ง และพยายามบอกกับชุว่า แม่ไปข้างนอกบ้าง แม่ไปเที่ยวบ้าง ชุพยายามไม่คิดอะไร แต่ในใจนั้นแสนทุกข์ทรมานจนต้องแอบร้องไห้อยู่คนเดียว เวลาผ่านไปไม่นาน หลายๆเรื่องที่เข้ามาในชีวิตของชุ ทำให้ชุทนไม่ได้กับการกระทำของพ่อเลี้ยง  เธอพยายามหาทางแก้แค้น จะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้...ติดตามชมต่อใน The Revenge แค้นนี้ต้องชำระ... เร็วๆนี้....

วันอังคารที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ตัวอย่างโครงงานเรื่อง ระบบจัดการแผนงานออนไลน์ By จริญญา

ระบบจัดการแผนงานออนไลน์

ความเป็นมาของโครงงาน
การปฏิรูปการศึกษาเป็นการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงทางการศึกษาไปสู่สิ่งที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้คนไทยที่มีคุณภาพและมีลักษณะที่พึงประสงค์เป็นทั้งคนดีเก่งมีความสุขการพัฒนาคนไทยให้มีคุณภาพต้องอาศัยการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ จากการเรียนวิชาการสร้าง ผลงานด้านคอมพิวเตอร์ของนักเรียนระดับชั้น ม.5 โรงเรียนสุราษฎร์พิทยา มีเนื้อหาเกี่ยวกับการปฏิบัติการสร้างและนำเสนอผลงานด้านคอมพิวเตอร์ โดยให้นักเรียนคำนึงถึงการนำความรู้ไปประยุกต์สร้างสรรค์ประโยชน์ต่อสังคม จึงสนใจในการสร้างสรรค์งานพัฒนาโปรแกรม และได้ทำการสอบถามข้อมูลปัญหาและความต้องการจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายงานในโรงเรียนพบว่า ปัญหาในการตรวจสอบการใช้งบประมาณของแต่ละโครงการของฝ่ายงานต่างๆ ต้องตรวจสอบกับเอกสารของฝ่ายแผนงานเท่านั้นทำให้ยุ่งยากในการตรวจสอบ โดยเฉพาะบางกลุ่มงานไม่ได้บันทึกข้อมูลการใช้งบประมาณ ทางกลุ่มจึงได้เสนอโครงงานคอมพิวเตอร์ ประเภทการประยุกต์ใช้งาน เรื่อง ระบบจัดการแผนงานออนไลน

วัตถุประสงค์ของโครงงาน
เพื่อพัฒนาโปรแกรมระบบจัดการแผนงานออนไลน์ โรงเรียนสุราษฎร์พิทยา
ขอบเขตของการดำเนินการ
การใช้งานของระบบจัดการแผนงานออนไลน์ของกลุ่มงานนโยบายและแผนงาน 
โรงเรียนสุราษฎร์พิทยา
เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
1. ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์
1.1 โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการผลิตสื่อเพื่การศึกษา โดยการสร้างโปรแกรมบทเรียนหรือหน่วยการเรียน ซึ่งอาจจะต้องมีภาคแบบฝึกหัด บททบทวน และค าถามค าตอบไว้พร้อม
1.2 โครงงานประเภทการประยุกต์ใช้งาน เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้าผลงานเพื่อประยุกต์ใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน อาทิเช่น ซอฟต์แวร์สำหรับการออกแบบและตกแต่งภายในอาคาร ซอฟต์แวร์ส าหรับการผสมสี และซอฟต์แวร์ส าหรับการระบุคนร้าย เป็นต้น
1.3 โครงงานพัฒนาเกม เป็นโครงงานพัฒนาซอฟต์แวร์เกมเพื่อความรู้หรือเพื่อความ เพลิดเพลิน เกมที่พัฒนาควรจะเป็นเกมที่ไม่รุนแรง เน้นการใช้สมองเพื่อฝึกคิดอย่างมีหลักการ
1.4 โครงงานพัฒนาเครื่องมือ นี้เป็นโครงงานเพื่อพัฒนาเครื่องมือช่วย สร้างงานประยุกต์ต่างๆ โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปซอฟต์แวร์ เช่น ซอฟต์แวร์วาดรูป ซอฟต์แวร์พิมพ์งาน และซอฟต์แวร์ช่วยการมองวัตถุในมุมต่างๆ เป็นต้น
1.5 โครงงานประเภทการทดลองทฤษฎี โครงงานประเภทนี้เป็นโครงงานที่ใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการ จำลองการทดลองของสาขาต่างๆ ซึ่งเป็นงานที่ไม่สามารถทดลองด้วยสถานการณ์จริงได้ เช่น 
การจุดระเบิด เป็นต้น
2. ข้อมูลเกี่ยวกับโปรแกรมที่ใช้ในการพัฒนา
SQL คือ อะไร
เอสคิวแอล (SQL) คือ ภาษาสอบถามข้อมูล หรือภาษาจัดการข้อมูลอย่างมีโครงสร้าง
MySQL (มายเอสคิวแอล) 
เป็นระบบจัดการฐานข้อมูลโดยใช้ภาษา SQL. สร้างขึ้นโดยชาวสวีเดน 2 คน และชาวฟินแลนด์ ชื่อ David Axmark, Allan Larsson และ Michael “Monty” Widenius. 
การใช้งาน 
นิยมใช้งานร่วมกับภาษาโปรแกรม PHP ซึ่งมักจะได้ชื่อว่าเป็นคู่ ซึ่งรวมถึง ภาษาซี ซีพลัสพลัส ปาสคาล ซีชาร์ป ภาษาจาวา เป็นต้น
ภาษา HTML 
HTML หรือ HyperText Markup Language เป็นภาษาคอมพิวเตอร์รูปแบบหนึ่ง ที่มีโครงสร้างการเขียนโดย
อาศัยตัวกำกับ (Tag) ควบคุมการแสดงผลข้อความ, รูปภาพ หรือวัตถุอื่นๆ ผ่านโปรแกรมเบราเซอร์
โครงสร้างของภาษา HTML 
ไฟล์เอกสาร HTML ประกอบด้วยส่วนประกอบสองส่วนคือ Head กับ Body โดยสามารถเปรียบเทียบได้ง่ายๆ ก็คือ ส่วน Head จะคล้ายกับส่วนที่เป็น Header ของหน้าเอกสารทั่วไป หรือบรรทัด Title ของหน้าต่างการทำงานในระบบ Windows สำหรับส่วน Body จะเป็นส่วนเนื้อหาของเอกสารนั้นๆโดยทั้งสองส่วนจะอยู่ภายในTag<HTML>…</HTML> 
<html>
<head><title> (หัวข้อ) </title></head> 
<body>
(เนื้อหา)
</body>
</html> 
โปรแกรมภาษา PHP
ภาษาคอมพิวเตอร์ในลักษณะเซิร์ฟเวอร์-ไซด์สคริปต์โดยลิขสิทธิ์อยู่ในลักษณะโอเพนซอร์ส ภาษาพีเอชพีใช้ส าหรับจัดท าเว็บไซต์และแสดงผลออกมาในรูปแบบ HTMLโดยมีรากฐานโครงสร้างคำสั่งมาจากภาษาซีภาษาจาวา และ ภาษาเพิร์ล
ตัวอย่างภาษาพีเอชพี
ภาษาพีเอชพีจะเป็นส่วนประกอบภายในเว็บเพจ โดยค าสั่งจะปรากฏระหว่า <?php … ?>
เช่น
<? phpecho “Hello, World!”;?>
<?echo “Hello World.”; ?>
<SCRIPT LANGUAGE = ‘php‘>
echo “Hello World.”;
</SCRIPT>
v
<% echo “Hello World.”; %>
การแสดงผลของพีเอชพีจะปรากฏในลักษณะ HTML ซึ่งจะไม่แสดงคำสั่งที่ผู้ใช้เขียน ซึ่งเป็นลักษณะเด่นที่พีเอชพีแตกต่างจากภาษาในลักษณะไคลเอนต์-ไซด์สคริปต์เช่น ภาษาจาวาสคริปต์ที่ผู้ชมเว็บไซต์สามารถอ่าน ดูและคัดลอกคำสั่งไปใช้เองได้นอกจากนี้พีเอชพียังเป็นภาษาที่เรียนรู้และเริ่มต้นได้ไม่ยาก โดยมีเครื่องมือช่วยเหลือและคู่มือที่สามารถหาอ่านได้ฟรีบนอินเทอร์เน็ต
ความสามารถการประมวลผลหลักของพีเอชพี
รู้จักกับโปรแกรม Photoshop CS3
 เป็นโปรแกรมในตระกูล Adobe ที่ใช้สำหรับตกแต่งภาพถ่ายและภาพกราฟิก ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นงานด้านสิ่งพิมพ์ นิตยสาร และงานด้านมัลติมีเดีย อีกทั้งยังสามารถ retouching ตกแต่งภาพและการสร้างภาพ ซึ่งก าลังเป็นที่นิยมสูงมากในขณะนี้ เราสามารถใช้โปรแกรม Photoshop ในการตกแต่งภาพ การใส่ Effect ต่าง ๆให้กับภาพ และตัวหนังสือ การทำภาพขาวดำ การทำภาพถ่ายเป็นภาพเขียน การนำภาพมารวมกัน การ Retouch ตกแต่งภาพต่าง
รู้จักกับโปรแกรม Dreamweaver
เป็นโปรแกรมแก้ไข HTML พัฒนาโดยบริษัทแมโครมีเดีย สำหรับการออกแบบเว็บไซต์ในรูปแบบ WYSIWYG กับการควบคุมของส่วนแก้ไขรหัส HTML ในการพัฒนาโปรแกรมที่มีการรวมทั้งสองแบบเข้าด้วยกันแบบนี้ ทำให้ ดรีมวีฟเวอร์เป็นโปรแกรมที่แตกต่างจากโปรแกรมอื่นๆ
การทำงานกับภาษาต่างๆ Dreamweaver สามารถทำงานกับภาษาคอมพิวเตอร์ในการเขียนเว็บไซต์แบบไดนามิค ซึ่งมีการใช้ HTML เป็นตัวแสดงผลของเอกสาร เช่น ASP, ASP.NET, PHP, JSP และ ColdFusion รวมถึงการจัดการฐานข้อมูลต่างๆ อีกด้วย และในเวอร์ชันล่าสุด (เวอร์ชัน CS4) ยังสามารถทำงานร่วมกับ XML และ CSS ได้อย่างง่ายดาย
รู้จักกับ AppServ
ชุดโปรแกรมในลักษณะของ WAMP ในการสร้างเว็บเซิร์ฟเวอร์สำเร็จรูปบนระบบปฏิบัติการไมโครซอฟท์ วินโดวส์สร้างโดยชาวไทย จัดทำขึ้นโดย ภาณุพงศ์ ปัญญาดี เป็นการ
รวมโปรแกรมจำนวน 4 ตัวในการสร้างเว็บเซิร์ฟเวอร์ ได้แก่
• Apache HTTP Server
• PHP
• MySQL
• phpMyAdmin

วิธีดำเนินการ
ดำเนินการจัดทำโครงงานตามแนวทางการพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ 6 ขั้นตอนดังนี้
3.2.1 การเลือกหัวข้อโครงงาน
3.2.2 การศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโครงงาน
3.2.3 การจัดทำข้อเสนอโครงงาน
3.2.4 การจัดทำโครงงานประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ดังนี้
3.2.4.1การวิเคราะห์และก าหนดรายละเอียดของปัญหา โดยระบุ
- การระบุข้อมูลเข้า เมื่อ Login  เข้ามารับข้อมูลชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน รับข้อมูลชื่อโครงการและรายละเอียดของกิจกรรม และสามารถเพิ่มรายการการเบิกจ่ายงบประมาณ
- การระบุข้อมูลออก แสดง Report ข้อมูลจำนวนเงินคงเหลือในแต่ละโครงการ/สังกัดฝ่าย และยอดรวมจำนวนเงินของทุกฝ่ายงาน
- การประมวลผลตรวจสอบยอดงบประมาณรวมของกิจกรรมในแต่ละโครงการและยอดงบประมาณที่เหลือจากการหักค่าใช้จ่ายในแต่ละครั้ง
3.2.4.2การเลือกเครื่องมือและออกแบบขั้นตอนวิธีในการแก้ปัญหาระบบจัดการแผนงานออนไลน์ ประกอบด้วยการใช้งานของผู้ใช้ทั่วไป(User) และผู้ดูแลระบบ (Admin) แบ่ง Userทั้งหมดออกเป็น 22 ฝ่าย
3.2.4.3การดำเนินการแก้ปัญหา
1. พัฒนาโปรแกรมระบบแผนงานออนไลน์ด้วยภาษา PHP ตามผังงานที่ออกแบบไว้ และออกแบบโครงสร้างฐานข้อมูล โดยจำลองเว็บผ่านโปรแกรม AppServ
2. Upload ฐานข้อมูลและเว็บไซต์เข้าสู่ Server โรงเรียนสุราษฎร์พิทยาhttp://ict.srp.ac.th/~student0155/PlanOnline
3.2.4.4การตรวจสอบและปรับปรุงวิธีการตรวจสอบกับบราวเซอร์ของ Notebook PC iPhone iPad Android
3.2.4.5การจัดทำคู่มือการใช้งาน
3.2.5 การเขียนรายงานได้จัดทำรายงานโครงงานเป็นรูปเล่ม
3.2.6 การนำเสนอและแสดงผลงานของโครงงาน ได้นำเสนอผลงานในงานนิทรรศการแสดงผลงานนักเรียนของกลุ่มสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยี เมื่อวันศุกร์ที่ 7 กันยายน 2555 บริเวณอาคารไมตรี โรงเรียนสุราษฎร์พิทยาและได้นำเสนอผลงาน ในงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 62 ระดับสหวิทยาเขตสุราษฎร์ธานี  ณ โรงเรียนสุราษฎร์ธานี 2 เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ 2555 และได้น าเสนอผลงาน ในงานศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งที่ 62 ระดับภาคใต้ ณ โรงเรียนสตรีภูเก็ต เมื่อวันที่ 19
ธันวาคม พ.ศ. 2555 และได้นำเสนอผลงานในงานนิทรรศการทางวิชาการ “เปิดบ้านสู่ชุมชน ปีการศึกษา 2555” ณ โรงเรียนสุราษฎร์พิทยา เมื่อวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2556 และได้มีการเผยแพร่ระบบจัดการแผนงานออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ SRP ICT Center 
http://www2.srp.ac.th/~ict/ และเว็บไซต์ฝ่ายบริหารทั่วไป
http://www2.srp.ac.th/~general/ โรงเรียนสุราษฎร์พิทยา
ผลการดำเนินการ
จากการดำเนินการพัฒนาระบบแผนงานออนไลน์ด้วยภาษา PHP ตามขั้นตอนการพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ 6 ขั้นตอน ซึ่งระบบแผนงานออนไลน์สามารถแสดง Report ข้อมูลจำนวนเงินคงเหลือในแต่ละโครงการของฝ่ายงาน และยอดรวมจำนวนเงินของทุกฝ่ายงาน
สรุปผล อภิปราย และข้อเสนอแนะ
สรุปผล
โครงงานคอมพิวเตอร์เรื่อง ระบบจัดการแผนงานออนไลน์โดยดำเนินการจัดทำโครงงานตามแนวทางการพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ 6 ขั้นตอน คือ การเลือกหัวข้อโครงงาน  การศึกษาค้นคว้าหา
ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโครงงาน การจัดทำข้อเสนอโครงงาน  การจัดทำโครงงานประกอบด้วย 4 ขั้นตอน         1 การวิเคราะห์และกำหนดรายละเอียดของปัญหา  2. การเลือกเครื่องมือและออกแบบขั้นตอนวิธีในการแก้ปัญหา 3. การดำเนินการแก้ปัญหา 4. การตรวจสอบและปรับปรุงวิธีการ การเขียนรายงาน  การนำเสนอและแสดงผลงานของโครงงาน ขอบเขตการทำงานของระบบจัดการแผนงานออนไลน์สำหรับกลุ่มงานนโยบายและแผนงานโรงเรียนสุราษฎร์พิทยา ระบบแผนงานออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ของฝ่ายบริหารทั่วไป http://ict.srp.ac.th/~sproject0155/PlanOnline โดยผู้ใช้ต้อง Login เข้ามาใช้ระบบ โปรแกรม รับข้อมูลชื่อโครงการและรายละเอียดของกิจกรรม และสามารถเพิ่มรายการการเบิกจ่ายงบประมาณ ตรวจสอบยอดงบประมาณรวมของกิจกรรมในแต่ละโครงการและยอดงบประมาณที่เหลือจากการหักค่าใช้จ่ายในแต่ละครั้ง แสดงข้อมูลจำนวนเงินคงเหลือในแต่ละโครงการของกลุ่มงาน และสามารถแสดงยอดรวมจำนวนเงินของทุกฝ่ายงาน และสามารถแสดงรายละเอียดการเบิกจ่ายในรูปของไฟล์งาน excel ได้ โดยสามารถเลือกให้แสดงออกเป็นช่วงเดือนหรือรายปีได
อภิปรายผล
จากการเรียนวิชาการสร้างผลงานด้านคอมพิวเตอร์ของนักเรียนระดับชั้น ม.5 โรงเรียน
สุราษฎร์พิทยา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555 มีเนื้อหาเกี่ยวกับการปฏิบัติการสร้างและนำเสนอผลงานด้านคอมพิวเตอร์โดยให้นักเรียนคำนึงถึงการนำความรู้ไปประยุกต์สร้างสรรค์ประโยชน์ต่อสังคม ทางกลุ่มสนใจในการสร้างสรรค์งานพัฒนาโปรแกรม จึงสอบถามข้อมูลปัญหาและความต้องการจากผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายงานในโรงเรียน เจ้าหน้าที่งานแผนงาน ครูที่ปรึกษาโครงงานในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการศูนย์ ICT ของโรงเรียน ซึ่งเป็นตัวแทนผู้ใช้ระบบจัดการแผนงานออนไลน์ ให้ข้อมูลแบบฟอร์ม เอกสารแผนปฏิบัติการโครงการประจำปีการศึกษา 2555 ของโรงเรียน และทดสอบระบบ ให้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ผลงานออกมาตรงตามแนวทางการปฏิบัติของโรงเรียน และรองรับการใช้ระบบผ่านเทคโนโลยีที่หลากหลาย iPAD, iPhone, Android เป็นต้น
เอกสารอ้างอิง
ทำความรู้จักกับโปรแกรม Dreamweaver .[online]. เข้าถึงได้จาก:            http://www.thaigoodview.com/library/contest2552/type2/tech04/47/page/1_introduce.html วันที่ 1 มิถุนายน 2555.
โปรแกรมภาษา PHP .[online]. เข้าถึงได้จาก:
http://starlovekhun.exteen.com/20110710/php วันที่ 30 มิถุนายน 2555.Appserv Open Project. [online]. เข้าถึงได้จาก: http://www.appservnetwork.com  วันที่ 30 มิถุนายน 2555.
ภาษา HTML. [online]. เข้าถึงได้จาก:
http://www.holy.ac.th/holy/html.htmวันที่ 30 มิถุนายน 2555.ศรีษะเกษ, โรงเรียน .
โครงงานคอมพิวเตอร์  [online]. เข้าถึงได้จาก: 
        http://teacher.skw.ac.th/salunyar/40102/unit_05/p_501.htm.  วันที่ 15 ตุลาคม 2554.
Appserv Open Project. [online]. เข้าถึงได้จาก: 
http://www.appservnetwork.com  วันที่ 30 มิถุนายน 2555.
Open Source Software (OSS). [online]. เข้าถึงได้จาก:
http://my-opensource-software.blogspot.com/2011/09/appserv.html . วันที่ 30 มิถุนายน 2555.
Photoshop. [online]. เข้าถึงได้จาก:
http://www.edu-mine.com/photoshop/lesson1_IntroPhotoshop.html. วันที่ 30 กันยายน 2555.
SQL คือ อะไร .[online]. เข้าถึงได้จาก:
http://www.choosak.com/page-29/  วันที่ 30 มิถุนายน 2555.
ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงโครงงาน
- ควรมีการสำรวจปัญหาต่างๆเพิ่ม ไม่ควรมีแค่ปัญหาเดียว คือ ปัญหาในการตรวจสอบการใช้งบประมาณ
- เมื่อโปรแกรมสามารถใช้งานได้จริงแล้ว ก็นำโปรแกรมไปเผยแผ่ให้แก่องค์กรต่างๆ ที่ต้องการใช้โปรแกรมประเภทนี้ เพื่อจะได้เป็นการประหยัดเวลาในการทำงาน

ตัวอย่างโครงงานเรื่อง การตัดต่อเพลง By ชุติกานต์

ตัวอย่างโครงงานเรื่อง   การตัดต่อเพลง

ความเป็นมาของโครงงาน
ปัจจุบัน “สื่อ” มีการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องและจริงจัง ทำให้นักเรียน นักศึกษาในแต่ละลสาขาวิชา โรงรียนจึงมีแนวคิดส่งเสริมให้นักศึกษารุ่นใหม่ ที่มีความชื่นชอบในการทำภาพยนตร์ และพัฒนาให้เป็นขุมพลังในอนาคตของวงการภาพยนต์ไทย โดยเปิดเวทีสำหรับการสร้างหนังสั้นขึ้นมาในหัวข้อ “สร้างสรรค์เพื่อสังคม” อีกทั้งทางโรงเรียนยังมีการจัดกิจกรรม “อบรมการทำหนังสั้น” โดยวิทยากรและทีมผู้เชี่ยวชาญในวงการภาพยนตร์ ซึ่งเป็นการเสริมสร้างทักษะการสร้างภาพยนตร์ให้กับผู้เข้าร่วมประกวดอีกด้วยในอนาคต ซึ่งเนื้อหาของการอบรมนั้นจะครอบคลุมตั้งแต่วิธีการทำการ์ตูน การเขียนบท การตัดต่อ ไปจนถึงเทคนิคการทำหนังตัวอย่าง (Trailer)
วัตถุประสงค์ของโครงงาน
1. เพื่อเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์ในการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์
2. เพื่อส่งเสริมให้เกิดการสร้างสื่อเทคโนโลยีที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์สำหรับเด็กและเยาวชน
3. เพื่อสามารถนำประสบการณ์การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้อย่างสร้างสรรค์
4. สร้างสื่อการเรียนรู้ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์

สมมุติฐานของการดำเนินการ (ถ้ามี)
สามารถนำเทคนิคการตัดต่อวิดีโอไปใช้ในการประกอบชีพเลี้ยงตนเองในอนาคตข้างหน้าได้และสามารถเรียนรู้การตัดต่อวิดีโอและมีความสามารถในการตัดต่อภาพยนตร์สั้นได้เป็นอย่างดี  เพื่อที่จะสร้างผลงานภาพยนตร์สั้นออกมาให้เป็นข้อคิดที่ดีแก่สังคมไทยได้
ขอบเขตของการดำเนินการ
การจัดทำโครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เรื่อง “การตัดต่อเพลง”   เป็นกระบวนการสร้างสรรค์สื่อที่ใช้ในการรณรงค์ และปลูกฝังจิตสำนึกในการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมหลักปฏิบัติในการดำเนินชีวิตเพื่อนำไปสู่ความพอเพียง  ความประหยัด  ถ่ายทอดออกมาในรูปแบบหนังสั้นเชิงสร้างสรรค์สังคม
เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
ในการจัดทำโครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เรื่อง “การตัดต่อวิดีโอ” ผู้จัดทำโครงงาน ได้ศึกษาเอกสารและงานที่เกี่ยวข้อง ต่อไปนี้
1. การตัดต่อวิดีโอ
การตัดต่อ หมายถึง การเปลี่ยนภาพและเสียงจากหนึ่งช็อต (Shot) ไปยังช็อตต่อไปโดยให้มีความต่อเนื่องและเรียงล้าดับเรื่องราว ไม่มีการกระโดดหรืออิริยาบถซ้ำซ้อนกัน โดยรักษาคุณภาพของภาพและเสียงให้กลมกลืนกันโดยตลอด ความสำคัญของการตัดต่อวิดีโอ
1. ช่วยเชื่อมต่อภาพ ในการถ่ายวิดีโอนั้นไม่นิยมแช่กล้องจับภาพหรือฉากใดนิ่งนานๆ เพราะจะท้าให้ผู้ชมเบื่อหน่าย ดังนั้นจึงมีการถ่ายเป็นช็อตสั้นๆ จับภาพในมุมต่างๆ กัน ถ้าเป็นการถ่ายทำด้วยกล้องเดียวก็จะต้องน้าภาพทั้งหมดเหล่านั้นมาเรียงล้าดับเข้าด้วยกันให้ถูกต้องตามเรื่องราวหรือตามบทวีดิโอ
2. ช่วยแก้ไขส่วนบกพร่อง ในการถ่ายวิดีโอบางครั้งมีการระมัดระวังและพิจารณากันอย่างรอบคอบแล้วก็ตาม ยังมักจะพบข้อบกพร่องอยู่เสมอ การตัดต่อสามารถช่วยได้โดยการตัดภาพที่ไม่ต้องการออกไปหรือแทรกภาพที่ดีเข้าไปแทนที่ หรือต้องการแต่ภาพที่ไม่ต้องการเสียงที่มากับภาพนั้นก็สามารถเอาออกไปได้
3. ช่วยกำจัดเวลา ในการถ่ายวิดีโอรายการต่างๆ โดยเฉพาะที่เป็นรายการสำหรับออกอากาศนั้น เวลาเป็นเรื่องสำคัญมากจ้าเป็นที่จะต้องถ่ายให้ได้เวลาตามที่กำหนด แม้ว่าจะถ่ายภาพที่ดีๆ สวยๆ และมีประโยชน์กับเรื่องที่จะเสนอมากเพียงไร ก็จ้าเป็นจะต้องเลือกภาพนั้นมาตัดต่อให้ได้ความยาวพอเหมาะกับเวลาที่กำหนดเท่านั้น ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตัดต่อล้าดับภาพก็จะต้องใช้กระบวนการตัดต่อนี้ ปรับแต่งตัดภาพส่วนเกินออกไป หรือแทรกบางภาพเพิ่มเข้ามาเพื่อให้ได้เวลาที่พอดี
4. ช่วยสร้างเรื่องราวอย่างต่อเนื่อง การล้าดับภาพเป็นการน้าภาพแต่ละฉากแต่ละตอนมาเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน ถ้าเป็นการต่อเชื่อมภาพอย่างมีศิลปะด้วยความคิดสร้างสรรค์ ผู้ชมจะรู้สึกต่อเนื่องในเรื่องราวที่เชื่อมต่อกันอย่างเป็นล้าดับนั้น ให้รายละเอียดมากพอเท่าที่ผู้ชมอยากจะรู้ ให้ความรู้สึกและอารมณ์ตามที่ควรจะเป็น ทั้งนี้หมายถึงว่าในขั้นตอนการถ่ายท้านั้นต้องได้ภาพที่ดี มีรายละเอียดเพียงพอ มีทั้งภาพขนาดไกล ขนาดกลาง ภาพถ่ายใกล้และภาพหลายๆ มุมของแต่ละฉากแต่ละตอน เจ้าหน้าที่ตัดต่อจึงจะสามารถเลือกภาพมาตัดต่อได้ตามต้องการ
วัตถุประสงค์ของการตัดต่อวิดีโอ
ในการตัดต่อมีวัตถุประสงค์อยู่ 5 ประการ ดังนี้
1. เพื่อคัดเลือก การถ่ายวิดีโอแม้มืออาชีพก็ยังต้องถ่ายท้ากันหลายๆ รอบ ไม่ต้องพูดถึงวิดีโอที่เราถ่ายกันเองประเภทม้วนเดียวจบ จ้าเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องคัดเลือกเอาเฉพาะช่วงที่ดีที่สุด ส่วนที่เหลือตัดทิ้งไป
2. เพื่อลำดับภาพ เมื่อคัดเลือกตอนต่างๆ มาแล้วก็ต้องน้ามาเรียงล้าดับให้เป็นไปตามเนื้อเรื่องหรือสคริปต์ที่วางไว้
3. เพื่อปรับความยาว หลังจากที่น้าตอนต่างๆ มาเรียงกันแล้ว ความยาวทั้งหมดอาจจะสั้นหรือยาวเกินไป จึงต้องมีการตัดออกหรือหามาเพิ่ม และปรับตำแหน่งเข้าออกและความยาวของแต่ละท่อนให้เหมาะสม
4. เพื่อปรับแต่งแก้ไข ตอนที่เราเลือกมาอาจมีข้อบกพร่องในเรื่องแสง สีและสิ่งแปลกปลอมต่างๆ เข้ามา การตัดต่อจะท้าให้เราได้แก้ไข ลบออกหรือปรับแต่งให้แต่ละท่อนมีความ กลมกลืนกัน
5. เพื่อปรุงแต่ง เป็นการเพิ่มสีสันเช่นการใส่เสียงดนตรี เสียง Effect การใส่ Transition การซ้อนตัวหนังสือ จะท้าให้วิดีโอมีความน่าดูยิ่งขึ้นอย่างไรก็ตาม การใช้เทคนิคพร่ำเพรื่อก็อาจท้าให้ดูเลอะเทอะ และลดความน่าสนใจของเนื้อหาลงได้ เช่นกัน วิดีโอจะสมบูรณ์ไปไม่ได้ ถ้าขาดการจัดการเรื่องเสียงที่ดี การแทรกค้าบรรยาย การปรับความดังของช่วงต่างๆ การแพนซ้ายขวาของเสียง การเพิ่มเสียงดนตรีหรือเสียงเพลงประกอบ รวมทั้งการเพิ่มเสียงเทคนิคต่างๆ ลงไปในวิดีโอถือเป็นเสน่ห์ที่จะท้าให้เกิดความประทับใจได้อย่างยิ่งทีเดียว
ระบบการตัดต่อวิดีโอ
แบ่งออกได้เป็น 3 ประเภทดังนี้คือ
1. ระบบลิเนียร์ (Linear)
2. ระบบนอนลิเนียร์ (Non-Linear)
3. ระบบไฮบริดจ์(Hybrid)
อุปกรณ์ที่ใช้ในการตัดต่อวิดีโอ
การตัดต่อวิดีโอจะต้องมีอุปกรณ์ต่างๆ ดังต่อไปนี้
1. กล้องวิดีโอ เป็นกล้องที่ใช้ในการถ่ายข้อมูลเข้าสู่คอมพิวเตอร์ เพื่อท้าการตัดต่อโดยการตัดต่อจะเน้นการตัดต่อในระบบ Non-Linear หรือการตัดต่อด้วยคอมพิวเตอร์เป็นหลัก ดังนั้นจึงต้องมีการถ่ายข้อมูลเข้าสู่คอมพิวเตอร์ก่อน
2. การ์ดตัดต่อ การถ่ายข้อมูลจากกล้องวิดีโอเข้าสู่คอมพิวเตอร์ จะต้องมีการ์ดตัดต่อ(Capture card) ท้าหน้าที่เป็นตัวกลางในการผ่านสัญญาณวิดีโอเข้าสู่คอมพิวเตอร์ และท้าหน้าที่ในการบีบอัดข้อมูลวิดีโอให้มีขนาดเล็กลง
3. ซอฟต์แวร์ หรือโปรแกรมสำหรับการจับภาพวิดีโอ (Capture) ซึ่งคุณอาจจะใช้โปรแกรมที่ได้รับมาพร้อมกับการ์ดท้าการ Capture ก็ได้ หรือจะใช้โปรแกรมอื่นๆ ก็ได้ เช่น WinDVR, PowerVCR, Pinnacle Studio, WinDVR, AVI_io_tral เป็นต้น ซึ่งบางโปรแกรมก็มีให้คุณสามารถดาวน์โหลดมาทดลองหรือใช้งานฟรีก็มี
4. เครื่องคอมพิวเตอร์ ควรเป็นเครื่องที่มาความเร็วของซีพียูสูง ไม่ควรต่ำกว่า Pentium III500 MHz ควรเป็นเครื่องที่ใช้ฮาร์ดดิสก์ที่มีความเร็วสูง เช่น ความเร็ว 7200 rpm แบบ UDMA /66 หรือ UDMA/100 หากเป็นฮาร์ดดิสก์แบบ SCSI จะยิ่งดี และควรมีขนาดที่มากเพียงพอสำหรับเก็บข้อมูลวิดีโอได้
หลักพื้นฐานสำคัญในการตัดต่อวิดีโอ
การตัดต่อเป็นการสร้างเรื่องราวขึ้นมาให้สมบูรณ์ โดยให้ภาพและเสียงมีความต่อเนื่องกันโดยตลอด การจะท้าเรื่องราวให้สมบูรณ์โดยการตัดต่อนั้นจะต้องคำนึงถึงหลักพื้นฐานสำคัญดังต่อไปนี้
1. ความต่อเนื่อง (Continuity) การตัดต่อเทปวิดีโอต้องพยายามรักษาหรือสร้างความต่อเนื่องในสิ่งต่อไปนี้
1.1 รายละเอียดของสิ่งที่ต้องการจะกล่าวถึง ผู้ชมรายการมักจะต้องการจดจ้าภาพของบุคคลหรือสิ่งของจากช็อตหนึ่งไปยังอีกช็อตหนึ่งได้ ดังนั้นให้หลีกเลี่ยงการตัดต่อภาพจากภาพที่เปลี่ยนระยะทางหรือมุมกล้องที่ไกลมากมาเป็นภาพที่ใกล้มาก หรือภาพถ่ายจากมุมด้านหน้าของคนที่ไกลตัดมาเป็นภาพถ่ายจากข้างหลังบุคคลเดียวกันที่ใกล้มาก แต่ถ้าจ้าเป็นต้องตัดต่อภาพแบบนี้ จะต้องเชื่อมโยงสัมพันธ์ของภาพให้ต่อเนื่อง โดยค้าอธิบายว่าภาพนี้เป็นบุคคลเดียวกันกับที่เห็นในช็อตก่อนหน้านี้
1.2 สถานที่ในฉาก เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องของภาพ จะต้องรักษาให้ตำแหน่งของบุคคลหรือสิ่งของที่ปรากฏในภาพอยู่ในฉากเดียวกัน เช่น ฉากการสนทนาของ 2 คน ซึ่งถ่ายข้ามไหล่ของแต่ละคนเพื่อจับภาพของคู่สนทนานั้น ผู้ชมก็ต้องการที่จะเห็นว่าอีกคนนั้นก็ยังอยู่ในจอเหมือนกัน แต่จะเปลี่ยนไปถ่ายในมุมตรงข้าม และที่สำคัญเวลาถ่ายท้าและต้องย้ายกล้องก็ต้องคำนึงถึงเส้นแบ่งการสนทนา (Vector Line บางทีเรียกว่า Line of Conversation หรือ Conversation Axis หรือ Principal Axis) คือ จะต้องตั้งกล้องถ่ายจากเส้นแบ่งด้านเดียวกัน มิฉะนั้นการตัดต่อภาพจะกระโดด หรือจะเป็นภาพการสนทนาที่หันหน้าไปทิศทางเดียวกัน
1.3 การเคลื่อนไหวของผู้แสดง การตัดต่อภาพให้อากัปกิริยาของผู้แสดงมีความต่อเนื่องอย่างเป็นธรรมชาติมากที่สุด ให้ตัดภาพระหว่างการเคลื่อนไหวของผู้แสดง ไม่ใช่ก่อนและหลังการเคลื่อนไหวนั้น
1.4 สี สีสันของภาพมีความสำคัญในการล้าดับภาพให้ต่อเนื่อง ถ้าฉากต่อเนื่องที่เป็นฉากเดียวกันแต่ถ่ายท้าหลายครั้ง ต่างเวลากัน เมื่อน้ามาล้าดับเป็นเรื่องราวต่อเนื่องกันต้องระมัดระวังว่าอุณหภูมิสีของแสงแตกต่างกันหรือไม่ ซึ่งจะเป็นเหตุให้สะดุดความรู้สึกของผู้ชม
1.5 เสียง เสียงจะต้องมีความสัมพันธ์กับภาพ การตัดต่อบางรายการต้องการใช้เสียงจริงที่ได้บันทึกไว้ระหว่างการถ่ายท้าในบาง ในการตัดต่อค้าพูดที่ไม่ต้องการออก ต้องระวังให้ค้าพูดนั้นลงจังหวะให้ดี ในช่วงค้าถามหรือค้าตอบ ส่วนบางตอนอาจต้องการให้ได้เสียงประกอบพิเศษเข้าไปเพื่แสดงเหตุการณ์ในสภาพแวดล้อมนั้นอย่างต่อเนื่อง เช่น เสียงแบคกราวน์ เสียงยวดยาน เสียงผู้คนโห่ร้อง เป็นต้น
2. ความซับซ้อน (Complexity) การตัดต่อภาพให้ได้เรื่องราวที่น่าสนใจ ชวนติดตามมองเห็นรายละเอียดที่ซับซ้อนของเหตุการณ์นั้น จะสื่อความหมายให้ผู้ชมเข้าใจและซาบซึ้งในเรื่องราวนั้นมากขึ้น ซึ่งการตัดต่อเทปวิดีโอให้เรื่องราวต่อเนื่องธรรมดา ผู้ชมก็สามารถจะดูรายการนั้นได้อย่างรู้เรื่องราวตั้งแต่ตั้งต้นจนจบว่าเหตุการณ์ดำเนินไปอย่างไร แต่จะเป็นรายการที่ขาดรสชาติบางอย่าง ผู้ชมไม่ได้เห็นว่ากล่าวจะถึงเหตุการณ์แต่ละตอนนั้น มีรายละเอียดที่สลับซับซ้อนอย่างไร การตัดต่อรายการแบบนี้ได้ จะต้องได้ภาพที่ถ่ายระยะใกล้แสดงรายละเอียดของส่วนประกอบในเหตุการณ์นั้นหลายๆ ภาพหลายๆ มุม ใช้จังหวะในการตัดต่อแทรกภาพเข้าไปอย่างเหมาะสมหรือใช้เสียงดนตรีที่เร่งเร้า หรือเสียงแบคกราวด์ที่สอดคล้องกับภาพ เพื่อให้เกิดความรู้สึกร่วมไปกับภาพนั้น
3. ความเป็นจริง (Context) การตัดต่อทุกชนิดต้องเสนอเรื่องที่เป็นจริงแก่ผู้ชม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของข่าว ในการถ่ายท้าเหตุการณ์ใดๆ ก็ตาม ภาพที่ถ่ายจากเหตุการณ์นั้นจะมีทั้งส่วนที่สื่อความหมายให้เห็นภาพรวมของเหตุการณ์ และก็อาจมีบางภาพที่อยู่ในเหตุการณ์จริงเช่นกัน แต่เป็นส่วนเล็กน้อยที่มิได้มีความหมายว่าเหตุการณ์โดยรวมจะเป็นเช่นนั้น การตัดต่อเทปวิดีโออาจท้าให้ความเป็นจริงบิดเบือนไปได้เช่น ตัดต่อข่าวการหาเสียงเลือกตั้งของนักการเมืองคนหนึ่ง มีภาพที่ช่างกล้องถ่ายมาเป็นภาพขนาดใกล้ของคนที่มาฟังการปราศรัยแล้วนั่งหลับน้ำลายยืด 2-3 หยด แต่ความจริงแล้วภาพอื่นๆ ส่วนใหญ่เป็นภาพฝูงชนที่แสดงความกระตือรือร้นในการฟัง ให้ความสนใจกับค้าปราศรัยนั้นมาก ถ้าเราตัดต่อเฉพาะคนที่นั่งหลับเข้าไป ก็เท่ากับว่าได้บิดเบือนความจริงไปจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระท้า สำหรับภาพจากแหล่งภาพสะสมนั้นส่วนใหญ่จะเป็นภาพเกี่ยวกับเหตุการณ์หรือเรื่องธรรมดาทั่วๆ ไป เช่น เมฆ ท้องฟ้า หาดทราย ฝนตก ฟ้าแลบ ยวดยาน ฝูงชน เป็นต้น ภาพเหล่านี้สามารถนำมาใช้ได้ดีกับการตัดต่อเรื่องราวที่สอดคล้องกัน แต่มิใช่น้าไปสอดแทรกเพื่อบิดเบือนความจริง
4. ความมีคุณธรรม (Ethics) เจ้าหน้าที่ตัดต่อเทปวิดีโอจะต้องเป็นผู้ยึดหลักคุณธรรมไม่ใช้การตัดต่อเป็นเครื่องมือสร้างเรื่องราวให้บิดเบือนไปจากเหตุการณ์ที่เป็นจริง นอกเสียจากจะเป็นรายการละครหรือนวนิยายที่แต่งขึ้นมาเท่านั้น ต้องไม่ใช้ความคิดเห็นส่วนตัวของตนเองเป็นเครื่องตัดสินใจที่สอดแทรกบางภาพที่มิได้มีความจริงปรากฏอยู่ ดังนั้นในการตัดต่อเทปวิดีโอท่านต้องคำนึงถึงความมีคุณธรรม ระมัดระวังไม่ให้มีการแต่งเติมหรือบิดเบือนอันอาจท้าให้ผู้หนึ่ง ผู้ใดเกิดความเสียหายจากการตัดต่อของตัวท่าน
เทคนิคการตัดต่อวิดีโอ
เทคนิคการเลือกใช้ภาพในการตัดต่อเทปวิดีโอ สามารถน้ามากล่าวไว้ได้ดังนี้
1. มุมกล้อง มุมกล้องในระดับที่แตกต่างกันจะท้าให้ความหมาย และความรู้สึกที่แสดงออกมานั้นแตกต่างกันออกไป
- ภาพมุมปกติ (Normal Angle Shot) เป็นมุมกล้องที่ใช้กันมากที่สุด ภาพจะอยู่ในระดับสายตา โดยยึดเอาสิ่งที่ถ่ายเป็นหลักไมใช่ระดับสายตาของผู้ถ่าย
- ภาพมุมสูง (High Angle Shot) ระดับของกล้องจะอยู่สูงกว่าวัตถุที่ถ่าย โดยถ่ายลงมาให้เห็นภาพแสดงถึงความต้อยต่ำขาดพลังภาพมุมสูงเหนือศีรษะ และปลายเท้าเป็นภาพที่มีระยะใกล้เข้ามามากกว่า ELS
- Medium Close Up (MCU) ภาพจะเน้นสิ่งที่ถ่ายมากขึ้น
- Close up (CU) เป็นภาพที่ถ่ายใกล้มากๆ จนฉากหลังแทบจะไม่มีความหมาย8
- Extreme Close up (ECU) เป็นภาพที่ถ่ายใกล้มากๆ จนสิ่งที่ถ่ายเป็นจุดเด่นเต็มจอโทรทัศน์
2. การเคลื่อนกล้อง
- Pan คือ การเคลื่อนกล้องในแนว Horizontal คือ จากซ้ายไปขวาหรือจากขวาไปซ้ายในแนวนอน
- Till เป็นการเคลื่อนกล้องในแนวดิ่ง (Vertical) คือขาของกล้องอยู่กับที่แต่หัวกล้องยกขึ้นในแนวดิ่ง (Till-Up) และกดลง (Till-down)
- Dolly คือ การเคลื่อนกล้องทั้งขากล้องและตัวกล้องเข้าไปใกล้หรือถอยหลังห่างจากผู้แสดง
- Zoom เป็นการเคลื่อนเข้า-ออกเฉพาะเลนส์
3. การประกอบภาพหรือการจัดองค์ประกอบภาพ การประกอบภาพนั้นไม่ใช่เพียงแต่จับภาพออกมา แต่หมายถึงวิธีการควบคุมความต่อเนื่องทางความคิด ต้องให้ผู้ชมได้รู้ได้เห็นในสิ่งที่ตนเองต้องการจะบอก ซึ่งต้องไม่ท้าให้ผู้ชมไขว้เขวสับสนหรือหันเหความสนใจไปยังจุดอื่นที่ผิดไปจากเป้าหมายที่วางไว้
เทคนิคในการเรียงลำดับภาพ
เทคนิคในการเรียงล้าดับภาพนี้ประกอบด้วยสิ่งที่สำคัญ 2 ประการ คือ
1. ความยาวของภาพหรือช็อต การเปลี่ยนภาพแต่ละครั้งจะท้าให้ผู้ชมถกกระตุ้นความรู้สึกขึ้นอีกครั้งหนึ่ง แล้วความรู้สึกนั้นจะค่อยๆ ลดลงจนกระทั่งมีการตัดภาพอีกครั้งหนึ่ง ถ้าความยาวของช็อตพอเหมาะกับอารมณ์ของผู้ชม ผู้ชมก็จะถูกกระตุ้นตามจังหวะ ถ้าช็อตยาวเกินไปอารมณ์ของผู้ชมจะราบเรียบไม่ตื่นเต้น แต่ถ้าช็อตสั้นเกินไปอารมณ์ของผู้ชมจะถูกกระตุ้นแต่เพียงบางเบาเพราะเกิดความเคยชิน
2. ความถี่ของการเปลี่ยนภาพ การเปลี่ยนภาพจากภาพที่หนึ่งไปสู่ภาพที่สอง หรือถ้าจะเรียกง่ายๆ ว่าการตัดภาพนั้น ตามธรรมดารายการที่มีความยาว 30 นาทีจะมีความถี่ในการตัดภาพ ประมาณ 20 ครั้งแต่ความถี่นี้อาจจะเปลี่ยนแปลงได้ตามเนื้อเรื่องของเรื่องที่แสดง ถ้าเป็นเรื่องที่แสดงถึงการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว เช่น การวิ่ง การกระโดด อาจตัดภาพที่มีความถี่สูง ความจริงแล้วความยาวช็อต และความถี่ของการเปลี่ยนภาพนี้มีความสัมพันธ์กันอยู่แล้ว(มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2537 : 77)
2.2      การจัดองค์ประกอบการจัดองค์ประกอบศิลป์เป็นหลักสำคัญสำหรับผู้สร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะและการออกแบบ การจัดองค์ประกอบศิลป์มีหลักที่ควรคำนึงอยู่ 5 ประการ คือ
        1.  สัดส่วน (proportion)
              หมายถึง ความสัมพันธ์กันอย่างเหมาะสมระหว่างขนาดขององค์ประกอบที่แตกต่างกันทั้งขนาดที่อยู่ในรูปทรงเดียวกันหรือระหว่างรูปทรงและรวมถึงความสัมพันธ์กลมกลืนระหว่างองค์ประกอบทั้งหลายด้วย ซึ่งเป็นความพอเหมาะพอดี ไม่มากไม่น้อย ความเหมาะสมของสัดส่วนอาจพิจารณาจากคุณลักษณะดังต่อไปนี้
•     สัดส่วนที่เป็นมาตรฐาน จากรูปลักษณะตามธรรมชาติ ของ คน สัตว์ พืช ซึ่งโดยทั่วไป ถือว่า สัดส่วนตามธรรมชาติ จะมีความงามที่เหมาะสมที่สุด  หรือจากรูปลักษณะที่เป็นการสร้างสรรค์ของมนุษย์ เช่น Gold section เป็นกฎในการสร้างสรรค์รูปทรงของกรีก ซึ่งถือว่า “ส่วนเล็กสัมพันธ์กับส่วนที่ใหญ่กว่า ส่วนที่ใหญ่กว่าสัมพันธ์กับส่วนรวม” ทำให้สิ่งต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นมีสัดส่วนที่สัมพันธ์กับทุกสิ่งอย่างลงตัว
•     สัดส่วนจากความรู้สึก    โดยที่ศิลปะนั้นไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อความงามของรูปทรงเพียง อย่างเดียว แต่ยังสร้างขึ้นเพื่อแสดงออกถึง  เนื้อหา เรื่องราว ความรู้สึกด้วย  สัดส่วนจะช่วยเน้นอารมณ์ ความรู้สึก ให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ และเรื่องราวที่ศิลปินต้องการ ลักษณะเช่นนี้ ทำให้งานศิลปะของชนชาติต่าง ๆ มีลักษณะแตกต่างกัน เนื่องจากมีเรื่องราว อารมณ์ และความรู้สึกที่ต้องการแสดงออกต่าง ๆ กันไป เช่น กรีก  นิยมในความงามตามธรรมชาติเป็นอุดมคติ เน้นความงามที่เกิดจากการประสานกลมกลืนของรูปทรง จึงแสดงถึงความเหมือนจริงตามธรรมชาติ ส่วนศิลปะแอฟริกันดั้งเดิม เน้นที่ความรู้สึกทางวิญญาณที่น่ากลัว ดังนั้นรูปลักษณะจึงมีสัดส่วนที่ผิดแผกแตกต่างไปจากธรรมชาติทั่วไป
2.  ความสมดุล (balance) หมายถึงน้ำหนักที่เท่ากันขององค์ประกอบ ไม่เอนเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง ในทางศิลปะยังรวมถึงความประสานกลมกลืน ฉะนั้นในงานศิลปะถ้ามองดูแล้วรู้สึกว่าบางส่วนหนักไป แน่นไปหรือเบาบางไปก็จะทำให้ภาพนั้นดูเอนเอียงและเกิดความรู้สึกไม่สมดุล เป็นการบกพร่องทางความงามดุลยภาพในงานศิลปะมี2ลักษณะคือ
ดุลยภาพแบบสมมาตร (Symmetry Balance) หรือ ความสมดุลแบบซ้ายขวาเหมือนกัน คือการวางรูปทั้งสองข้างของแกนสมดุล เป็นการสมดุลแบบธรรมชาติลักษณะแบบนี้ใน ทางศิลปะมีใช้น้อย ส่วนมากจะใช้ในลวดลายตกแต่ง ในงานสถาปัตยกรรมบางแบบ หรือในงานที่ต้องการดุลยภาพที่นิ่งและมั่นคงจริง ๆ
ดุลยภาพแบบอสมมาตร (Asymmetry Balance) หรือ ความสมดุลแบบซ้ายขวาไม่เหมือนกันมักเป็นการสมดุลที่เกิดจาการจัดใหม่ของมนุษย์   ซึ่งมีลักษณะที่ทางซ้ายและขวาจะไม่เหมือนกัน ใช้องค์ประกอบที่ไม่เหมือนกัน  แต่มีความสมดุลกัน   อาจเป็นความสมดุลด้วย น้ำหนักขององค์ประกอบ หรือสมดุลด้วยความรู้สึกก็ได้  การจัดองค์ประกอบให้เกิดความ สมดุลแบบอสมมาตรอาจทำได้โดย    เลื่อนแกนสมดุลไปทางด้านที่มีน้ำหนักมากว่า   หรือ
เลื่อนรูปที่มีน้ำหนักมากว่าเข้าหาแกน  จะทำให้เกิดความสมดุลขึ้น หรือใช้หน่วยที่มีขนาด
เล็กแต่มีรูปลักษณะที่น่าสนใจถ่วงดุลกับรูปลักษณะที่มีขนาดใหญ่แต่มีรูปแบบธรรมดา
          3. จังหวะลีลา (Rhythm)
หมายถึง การเคลื่อนไหวที่เกิดจากการซ้ำกันขององค์ประกอบ เป็นการซ้ำที่เป็นระเบียบ  เนื่องจากจังหวะของลายนั้น ซ้ำตัวเองอยู่ตลอดไปไม่มีวันจบ และมีแบบรูปของการซ้ำที่ตายตัว  แต่งานศิลปะแต่ละชิ้นจะต้องจบลงอย่างสมบูรณ์ และมีความหมายในตัว งานศิลปะทุกชิ้นมีกฎเกณฑ์และระเบียบที่ซ่อนลึกอยู่ภายในไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนงานชิ้นใดที่แสดงระเบียบกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนเกินไป งานชิ้นนั้นก็จะจำกัดตัวเอง ไม่ต่าง อะไรกับลวดลายที่มองเห็นได้ง่าย ไม่มีความหมาย ให้ผลเพียงความเพลิดเพลินสบายตาแก่ผู้ชม
          4.  การเน้น (Emphasis) หมายถึง การทำให้เด่นเป็นพิเศษกว่าธรรมดาในงานศิลปะจะต้องมีส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือจุดใดจุดหนึ่งที่มีความสำคัญกว่าส่วนอื่นๆเป็นประธานอยู่ ดังนั้นส่วนนั้นจึงต้องถูกเน้นให้เห็นเด่นชัดขึ้นมา ซึ่งจะทำให้ผลงานมีความงามสมบูรณ์ ลงตัวและน่าสนใจมากขึ้นการเน้นจุดสนใจสามารถทำได้ 3 วิธีคือการเน้นด้วยการใช้องค์ประกอบที่ตัดกัน (Emphasis by Contrast) สิ่งที่แปลกแตกต่างไปจากส่วนอื่นๆ ของงาน จะเป็นจุดสนใจ ดังนั้น การใช้องค์ประกอบที่มีลักษณะ แตกต่าง หรือขัดแย้งกับส่วนอื่น ก็จะทำให้เกิดจุดสนใจขึ้นในผลงานได้ แต่ทั้งนี้ต้องพิจารณาลักษณะความแตกต่างที่นำมาใช้ด้วยว่า ก่อให้เกิดความขัดแย้งกันในส่วนรวมและทำให้เนื้อหาของงานเปลี่ยนไปหรือไม่โดยต้องคำนึงว่า แม้มีความขัดแย้ง แตกต่างกันในบางส่วนและในส่วนรวมยังมีความกลมกลืนเป็นเอกภาพเดียวกันการเน้นด้วยการด้วยการอยู่โดดเดี่ยว (Emphasis by Isolation) เมื่อสิ่งหนึ่งถูกแยกออกไปจากส่วนอื่นๆของภาพหรือกลุ่มของมันสิ่งนั้นก็จะเป็นจุดสนใจเพราะเมื่อแยกออกไปแล้วก็จะเกิดความสำคัญขึ้นมาซึ่งเป็นผลจากความแตกต่างที่ไม่ใช่แตกต่างด้วยรูปลักษณะ แต่เป็นเรื่องของตำแหน่งที่จัดวางซึ่งในกรณีนี้ รูปลักษณะนั้นไม่จำเป็นต้องแตกต่างจากรูปอื่น แต่ตำแหน่งของมันได้ดึงสายตาออกไปจึงกลายเป็นจุดสนใจขึ้นมาการเน้นด้วยการจัดวางตำแหน่ง (Emphasis by Placement) เมื่อองค์ประกอบอื่น ๆชี้นำมายังจุดใด ๆ จุดนั้นก็จะเป็นจุดสนใจที่ถูกเน้นขึ้นมาและการจัดวางตำแหน่งที่เหมาะสม ก็สามารถทำให้จุดนั้นเป็นจุดสำคัญขึ้นมาได้เช่นกัน พึงเข้าใจว่า การเน้น ไม่จำเป็นจะต้องชี้แนะให้เห็นเด่นชัดจนเกินไป สิ่งที่จะต้องระลึกถึงอยู่เสมอ คือ เมื่อจัดวางจุดสนใจแล้ว จะต้องพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้สิ่งอื่นมาดึงความสนใจออกไป จนทำให้เกิดความสับสน การเน้น สามารถกระทำได้ด้วยองค์ประกอบต่างๆของศิลปะ ไม่ว่าจะเป็น เส้น  สี แสง-เงา  รูปร่าง รูปทรง หรือ พื้นผิว ทั้งนี้ขึ้นอยู่ความต้องการในการนำเสนอของศิลปินผู้สร้างสรรค์
5.  เอกภาพ (unity) หมายถึง ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันขององค์ประกอบศิลป์ทั้งด้านรูปลักษณะและด้านเนื้อหาเรื่องราว เป็นการประสานหรือจัดระเบียบส่วนต่างๆให้เกิดความเป็นหนึ่งเดียว เอกภาพของงานศิลปะมีอยู่  2ประการคือเอกภาพของการแสดงออก หมายถึง การแสดงออกทีมีจุดมุ่งหมายเดียว แน่นอน และมีความเรียบง่าย งานชิ้นเดียวจะแสดงออกหลายความคิด หลายอารมณ์ไม่ได้ จะทำให้สับสน
ขาดเอกภาพ  และการแสดงออกด้วยลักษณะเฉพาตัวของศิลปินแต่ละคน ก็สามารถทำให้  เกิดเอกภาพแก่ผลงานได้เอกภาพของรูปทรง คือ การรวมตัวกันอย่างมีดุลยภาพ และมีระเบียบขององค์ประกอบ ทางศิลปะ เพื่อให้เกิดเป็นรูปทรงหนึ่ง ที่สามารถแสดงความคิดเห็นหรืออารมณ์ของศิลปิน ออกได้อย่างชัดเจน เอกภาพของรูปทรง เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดต่อความงามของผลงานศิลปะเพราะเป็นสิ่งที่ศิลปินใช้เป็นสื่อในการแสดงออกถึงเรื่องราว  ความคิด และอารมณ์  ดังนั้นกฎเกณฑ์ในการสร้างเอกภาพในงานศิลปะเป็นกฎเกณฑ์เดียวกันกับธรรมชาติ
วิธีดำเนินการ
1.วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมหรือที่ใช้ในการพัฒนา
การจัดทำโครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เรื่อง “การตัดต่อเพลง” ผู้จัดทำโครงงานมีวิธีดำเนินงานโครงงาน ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมหรือที่ใช้ในการพัฒนา
–  เครื่องคอมพิวเตอร์ที่พร้อมสำหรับการจัดทำหนังสั้น ที่มีคุณสมบัติค่อนข้างสูง พร้อมเชื่อมต่อระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
-  โทรศัพท์  หรือ กล้องวิดีโอ
-  โปรแกรมตัดต่อเสียงเช่น  Sound Forge, Jet  Audio ฯลฯ
-  โปรแกรมตัดต่อวิดีโอเช่น Movie Maker, Ulead Vedio Studio, Sony Vegas , Premier Pro เป็นต้น
-  เว็บไซต์ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร
2.ขั้นตอนการดำเนินงาน
–  คิดหัวข้อโครงงานเพื่อนำเสนอครูที่ปรึกษาโครงงาน
–  ศึกษาและค้นคว้าข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่สนใจ ว่ามีเนื้อหามากน้อยเพียงใด และต้องศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมเพียงใดจากเว็บไซต์ต่างๆ และเก็บข้อมูลไว้เพื่อจัดทำเนื้อหาต่อไป
–  ศึกษาการพัฒนาโปรแกรมในรูปแบบการตัดต่อภาพยนตร์สั้น จากเอกสารที่ครูประจำวิชากำหนด และจากเว็บไซต์ต่างๆ ที่นำเสนอเทคนิค วิธีการต่าง ๆ
-  จัดทำข้อเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์เพื่อนำเสนอครูที่ปรึกษา
- ปฏิบัติการจัดทำโครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เรื่อง “การตัดต่อเพลง” ในรูปแบบการตัดต่อภาพยนตร์สั้น
-   นำเสนอรายงานความก้าวหน้าเป็นระยะๆ โดยแจ้งให้ครูที่ปรึกษาทราบซึ่งครูที่
ปรึกษาจะให้ข้อเสนอแนะต่างๆ เพื่อให้จัดทำเนื้อหาและการนำเสนอที่น่าสนใจต่อไป ทั้งนี้เมื่อได้รับคำแนะนำก็จะนำมาปรับปรุง แก้ไขให้เป็นที่สนใจยิ่งขึ้น อีกทั้งได้สร้างเครือข่ายสังคมโดยใช้เว็บไซต์ http://www.facebook.com และ http://www.youtube.com เพื่อให้เพื่อนๆ มาช่วยให้ข้อเสนอแนะ และสื่อสารกันหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการสร้างและพัฒนาดังกล่าว
-  จัดทำเอกสารรายงานโครงงานคอมพิวเตอร์ โดยนำเสนอเป็นรูปเล่ม
-  ประเมินผลงาน โดยการนำเสนอผ่านเว็บเครือข่ายสังคมโดยใช้เว็บไซต์ Facebook.com และYoutube.com แล้วให้ครูที่ปรึกษาประเมินผลงาน และให้เพื่อนๆ ผู้สนใจเข้าร่วมประเมิน โดยการสร้างกล่อง Like Box เพื่อให้คลิก Like และคอมเมนท์ในหน้าเว็บไซต์

ผลการดำเนินการ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการค้นคว้าในเรื่อง การฝึกการถ่ายภาพและตัดต่อวีดีโอ โดยมีขั้นตอนการดำเนินการวิจัย ดังนี้
1.  เสนอโครงการการถ่ายภาพและตัดต่อวีดีโอ
2.  เก็บรวบรวมข้อมูลเนื้อหาเกี่ยวกับการทำงาน
- ความเป็นมา
- วิธีทำ
- ประโยชน์
-ประเภท
3.  นำเนื้อหางานไปนำเสนอ
4.  วางแผนการทำงาน
- หาสถานที่
- เขียนบท
- ถ่ายภาพและถ่ายวีดีโอ
- ตัดต่อวีดีโอ
5.  ถ่ายภาพและตัดต่อวีดีโอ
- ประวัติการถ่ายภาพ
- การจัดองค์ประกอบ
6.  นำไปประเมิน
7.  ปรับปรุงแก้ไข
8.  นำผลมาวิเคราะห์การประเมิน
9.  นำไปประเมินประสิทธิภาพ
10.  นำเสนอผลงาน , เข้าเล่มโครงการ

สรุปผล อภิปราย และข้อเสนอแนะ
1.สรุปผลการดำเนินงานโครงงาน
โครงงานพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เรื่อง “การตัดต่อเพลง”นี้ ผู้จัดทำได้เริ่มดำเนินงานตามขั้นตอนการดำเนินงานที่เสนอในบทที่ 3 แล้ว แล้วได้ทำการพัฒนาผลงาน โดยผลิตผลงานออกมารูปแบบของภาพยนตร์สั้น จากนั้นได้นำเสนอเผยแพร่ผลงานผ่านสังคมเครือข่าย
ที่สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา  โดยได้นำเผยแพร่ที่ www.wordpress.com ของผู้จัดทำที่ชื่อ ‘’การตัดต่อเพลง”
ทั้งนี้ ผลงานที่นำเสนอที่อยู่ในรูปแบบหนังสั้นนั้น  ได้มีผู้เข้าเยี่ยมชมผลงานเป็นที่ชื่นชอบ เพราะเป็นผลงานที่นำเสนอหนังสั้นเชิงคุณธรรม สอดแทรกสาระความรู้  ตลอดจนถึงแง่คิดในเรื่องต่าง ๆ รวมทั้งเพื่อปลูกฝังการดำเนินชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ความประหยัด ความมัธยัสต์  ตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  เพื่อเป็นแนวทางการดำรงอยู่และปฏิบัติตนของคนในสังคมไทย เพื่อให้ก้าวทันต่อยุคโลกาภิวัตน์  ตลอดจนสามารถนำความรู้ที่ได้จากการทำโครงงานไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
การนำเสนอผลงานดังกล่าว สามารถจัดการและเชื่อมต่อกับเว็บไซต์อื่นๆ ได้เป็นอย่างดีโดยทั้งครูที่ปรึกษา เพื่อนๆ ในห้องเรียนได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการดำเนินการจัดทำโครงงาน  การแสดง  ในเนื้อเรื่อง  การลำดับเรื่อง  การตัดต่อวิดีโอ  การจัดการเรียนรู้  หลังจากได้เผยแพร่ผลงานผ่านอินเตอร์เน็ต  ผู้เยี่ยมชมได้แสดงความเห็นในการแสดง  และรูปแบบของการนำเสนออย่างหลากหลาย  ซึ่งทำให้เกิดการพัฒนา  เกิดการเรียนรู้  และเป็นแหล่งเรียนรู้ในโลกออนไลน์อย่างหลากหลายและรวดเร็ว
2. อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ
อภิปรายผล
-  ในการจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์ในครั้งนี้  เนื้อหาข้อมูลที่ใช้ประกอบการจัดทำภาพยนตร์สั้น  รวบรวมจากแหล่งอ้างอิงที่เชื่อถือได้
-  โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ  Sony vagus และโปรแกรมที่ใช้ทำเอ็ฟเฟ็กต์ มีความเหมาะสมในการจัดทำสื่อเพื่อการศึกษา ที่ต้องการออกแบบชิ้นงานทุกส่วนด้วยตัวเอง
ข้อเสนอแนะ
-  การทำภาพยนตร์สั้นนับว่าเป็นกิจกรรมที่เปิดพื้นที่ให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มีความคิดเชิงสร้างสรรค์และมีความสามารถในการถ่ายทำหนังสั้น มีโอกาสนำเสนอแนวความคิดหรือทัศนคติของตน ในประเด็นต่างๆ ออกสู่สังคม ซึ่งปัจจุบันหนังสั้นยังคงเป็นสื่อที่ ได้รับความนิยมทั้งจากผู้ชมและผู้ผลิตในยุคสังคมสมัยใหม่  เพราะฉะนั้นผู้จัดทำควรเผยแพร่สิ่งที่ดี ๆ ให้บุคคลที่เข้ามาเยี่ยมชมหรือเป็นแนวคิดที่ดี ๆ นำไปเผยแพร่ต่อเพื่อเป็นแง่มุมความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อไป
-  เพื่อให้นักเรียนและผู้จัดทำภาพยนตร์สั้น สามารถพัฒนารูปแบบของหนังสั้น และพัฒนาศักยภาพของสมาชิกในกลุ่มให้มีความชำนาญขึ้นนั้น โดยอาจจะเปิดการอบรมเพื่อพัฒนาการสร้างสรรค์ผลงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น


เอกสารอ้างอิง
บุญเลิศ  เจริญกิจศิริวงศ์. ภาพยนตร์สั้นและการเขียนบท. [ออนไลน์]. สืบค้นวันที่ 15 กรกฎาคม
2556. จาก http://www.moralmedias.net/index.php?option=com_content&task  =view&id=33&Itemid=39
Vinz  Primo. คู่มือการใช้โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ Sony Vegas. [ออนไลน์]. สืบค้นวันที่ 16 กรกฎาคม
2556. จากhttp://www.slideshare.net/johnypath1/sony-vegas-7
กฤตยา  ศรีริ. เรียนรู้เทคนิคการทำภาพยนตร์สั้น. [ออนไลน์]. สืบค้นวันที่ 16 กรกฎาคม 2556.
จากhttp://www.krupu.com/smedu/?page_id=1770
พูนศักดิ์  สักกทัตติยกุล . ขั้นตอนการเขียนบทภาพยนตร์.[ออนไลน์]. สืบค้นวันที่ 16 กรกฎาคม
2556.จาก http://www.thaigoodview.com/node/77052

ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงโครงงาน
โครงงานนี้เนื้อหาค่อนข้างเรียบเรียงได้ไม่ดี ควรเรียบเรียงใหม่ และเนื้อหาไม่ค่อยเกี่ยวกับโครงงานสักเท่าไหร่